School Kills Creativity โรงเรียนฆ่าความคิดสร้างสรรค์

No comments
โรงเรียนฆ่าความคิดสร้างสรรค์

อดีตเด็กเรียนซ้ำชั้น อดีตเด็กที่เรียนรู้ได้ช้า แต่เขาเคยกล่าวเอาไว้ว่า
"Imagination is more important than knowledge"
"จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"
          เรื่องทั้งหมดที่กล่าวมาคือ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญของโลก เขาคนนั้นคือ "อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์"
          "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" เป็นวลีอันอมตะที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ทิ้งเอาไว้ให้แก่โลก ความรู้ทำให้เราฉลาดขึ้น แต่มันจะเป็นสิ่งที่อยู่คงเดิมอย่างนั้น หากเราไม่นำความรู้นั้นไปใส่จินตนาการเพิ่มเติม เปรียบเทียบง่ายๆ ความรู้ก็เหมือนกับปัจจุบัน ขณะที่จินตนาการเปรียบได้กับอนาคต แม้แต่ผู้ที่ได้รับการยกย่องจากนักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกว่าเป็นผู้ทรงความรู้อย่าง ไอน์สไตน์ ยังไม่อยากให้เราจบแค่ความรู้และให้ความสำคัญกับจินตนาการมากกว่า เพราะเป็นสิ่งที่สามารถสร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นบนโลกของเรามานักต่อนักแล้ว
          หนึ่งตัวอย่างที่ดี คือ ก่อนปี ค.ศ. 1903 ความรู้คือมนุษย์ไม่สามารถบินได้ และคงได้หัวเราะกันจนฟันโยกแน่ๆ ถ้าในปีนั้น อยู่ดีๆ มีใครมาบอกว่า "ในวันข้างหน้า มนุษย์จะบินขึ้นไปบนฟ้าได้" แต่พี่น้องตระกูลไรต์ ใช้จินตนาการมองเห็นสิ่งที่ต่างออกไป พวกเขาทำการบินขึ้นฟ้าครั้งแรกในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ.1903 จนมาถึงวันนี้ทุกคนมีความรู้ใหม่ จากจินตนาการของพี่น้องตระกูลไรต์ว่า "มนุษย์สามารถบินขึ้นไปบนฟ้าได้ด้วยเครื่องบิน"
           เราใช้ความรู้ที่มีสร้างจินตนาการ แล้วใช้จินตนาการสร้างความรู้ใหม่ เพื่อที่จะได้จินตนาการต่อยิ่งสองสิ่งนี้พัฒนาควบคู่กันไปยิ่งดีมากๆ
           จากคำกล่าวข้างต้นของไอสไตน์ จะเป็นจริงหรือไม่ หรือเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหนกัน เพราะเห็นกันพูดอยู่ว่า "ความรู้สำคัญกว่าอื่นใด" คนเราสามารถใช้ความรู้ทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ คนที่มีความรู้ท่านเรียกว่า นักปราชญ์ แต่ทำไมไอสไตน์ถึงได้กล่าวในทางที่ตรงกันข้ามเช่นนั้น มีเหตุผลอื่นประการใดแอบแฝงหรือ หรือว่าเป็นการกล่าวขึ้นมาลอยๆ อย่างไม่มีเหตุผลเฉยๆ
          บางคนอาจมีข้อโต้แย้งว่า ความรู้ที่ทำให้โลกเราเกิดความเปลี่ยนแปลงไปต่างๆนานา เพราะไม่ว่ายุคไหนๆ ก็เกิดความเปลี่ยนแปลง อันเนื่องมาจากการที่คนในสังคมมีความรู้ต่างหาก ไม่ใช่เป็นเพราะการที่คนมีจินตนาการ ที่กล่าวเช่นนั้นก็ถูกแต่ก็ถูกไม่หมด แม้ว่าความรู้จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางต่างๆ ในสังคมแต่ละยุคสมัยจนถึงในยุคสมัยปัจจุบัน เราจะอาศัยแต่เพียงความรู้อย่างเดียวก็ไม่สามารถก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ หากไม่อาศัยจินตนาการด้วยตามที่ได้กล่าวแล้วว่าจินตนาการและความรู้ต้องไปด้วยกันเสมอ ถึงแม้ว่าจินตนาการและความรู้มีความสำคัญพอๆกัน แต่โดยส่วนลึกแล้ว จินตนาการย่อมมีความสำคัญกว่า เพราะคนเราแม้ว่าตนเองจะมีความรู้ ต่อให้รู้มากขนาดไหนแต่ถ้าหากว่าไม่มีจินตนาการก็ไม่มีทางรู้เลยว่าจะเอาความรู้นั้นไปทำอะไร ไปใช้กับอะไร และเมื่อใช้ทำสิ่งนั้นแล้วผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร ก็ไม่สามารถที่จะใช้ความรู้นั้นๆ ให้เกิดผลได้เลย เข้ากับสำนวนไทยที่ว่า 


ขอบคุณ http://guru.sanook.com/9437/


ใช้ Google Forms เพื่อ Upload ไฟล์ได้แล้ว

No comments
Google Forms เป็นบริการที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างฟอร์มออนไลน์ แต่พวกเขาพลาดคุณสมบัติหลักบางอย่างที่พบในผู้สร้างฟอร์มเว็บเชิงพาณิชย์ ตัวอย่างเช่น Google Forms ไม่อนุญาตให้อัปโหลดไฟล์ไปยัง Google ไดรฟ์ไม่สนับสนุน CAPTCHA เพื่อป้องกันสแปมและสิ่งที่อาจเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมกฎหมายและการค้าปลีก Google Forms ไม่สามารถจับภาพลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ได้


ครูในโรงเรียนอาจต้องการสร้าง Google ฟอร์มซึ่งนักเรียนสามารถอัปโหลดการกำหนดและไฟล์จะถูกบันทึกลงใน Google ไดรฟ์ของเธอโดยอัตโนมัติ แต่จะอยู่ในโฟลเดอร์นักเรียนแยกต่างหาก ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ บริษัท อาจต้องการสร้างแบบฟอร์มออนไลน์ที่ผู้สมัครงานสามารถอัปโหลดประวัติย่อในรูปแบบ PDF หรือ Word ได้


เริ่มต้นปฏิบัติการกันเลยนะครับ


  1. สร้าง Google Forms ด้วย Google Apps Account คือเข้าสู่ระบบด้วย gmail ก่อนนะครับ


  1. สร้างคำถามตามปรกติ แล้วในส่วนของการ Upload ไฟล์ คลิก Option ของชนิดของคำถามแล้วเลือกเป็น File Upload

  1. จากนั้นยอมรับเงื่อนไข โดยคลิก Continue

  1. จากนั้น สามารถ กำหนดขนาดสูงสุดของไฟล์ได้

  1. กำหนดชนิดของไฟล์ก็ได้ คลิก แล้ว Apply

  1. กำหนดจำนวนของไฟล์ที่จะ Upload ก็ได้

  1. เมื่อมีผู้ส่งไฟล์เข้ามา

  1. ก็จะเก็บไว้ใน Google Drive ขึ้นต้นด้วยชื่อไฟล์ แล้ว มีชื่อ (ตาม Email address) ของผู้ส่ง

  1. แต่ไม่ต้องห่วง หากมีการส่งชื่อไฟล์ซ้ำกัน จากคนๆเดียวกัน ไฟล์ใน Google Drive จะแยกจากกันด้วย Unique ID เราสามารถเห็นความแตกต่างได้จากเวลา


  1. และในส่วนของ Response ก็จะมองเห็นว่า ใครส่งไฟล์อะไรมา




การให้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลบัญชี Google ของแอปพลิเคชัน ของ 3rd Party ด้วย Google Apps Script

No comments

การให้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลบัญชี Google ของแอปพลิเคชันบุคคลที่สาม ภายใต้องค์กรของ Google Education หรือองค์กรในเครือ Google โดยใช้ Google App Script บน Blogger หรือ Hostting อื่นๆครับ


นานๆครั้งจะมีโอกาสเข้ามาเขียนบทความให้ความรู้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ครั้งนี้มาลองใช้ Google App Script เขียนเช็คตรวจสอบอีเมล์ภายใต้ อีเมล์ของ Google โดยในตัวอย่างจะเป็นการใช้ตรวจสอบสิทธิอีเมล์ของโรงเรียนอำนาจเจริญ (ร.ร.ที่ผู้เขียนสอนในปัจจุบัน) คือ @anc.ac.th บนเว็บทั่วไป ในที่นี้ จะนำเสนอในบทความนี้เลย  

มาเริ่มวิธีการเลยครับ
  1. เข้า ไปที่เว็บนี้ คลิกเพื่อเปิด  (อย่าลืมเข้าสู่ระบบด้วยอีเมล์ขององค์กรของท่านก่อน)เว็บ Google Apps script ที่ทำโค้ดไว้ให้เรียบร้อย ท่านมีหน้าที่ศึกษาเพิ่มเติมในโค้ดได้เลยครับ  (ต้องมีพื้นฐาน Html นิดๆนะครับ)
  2. ก่อนอื่นต้องทำการ Mack copy ไว้ที่ Google Drive ของท่านก่อนนะครับ
  3. จากนั้นก็เริ่มแก้โค้ดกันเลยครับ..
แก้ที่ไฟล์ index.html ที่บรรทัด 53 ซึ่งโค้ดที่จะได้มาจะต้องไปทำตามขั้นตอนที่ 4 ก่อนนะครับ
  1. ขั้นตอนนี้ต้องดำเนินการเปิด APIs & Services  ดังนี้ครับ
    1. เข้าเว็บ  Google API Console หน้าตาดังภาพด้านล่างครับ
⇒  จากนั้นอย่าลืมสร้าง Project ตามภาพด้านล่างก่อนนะครับ
⇒  จากนั้นเข้าแท็บนี้ ⇒   Credentials
⇒  เริ่มสร้าง Credentials ตามภาพด้านบน ด้วยวิธี 1-3 เลยตามนั้นครับ

⇒  จากนั้นจะเข้าแท็บใหม่ตามภาพด้านบน  ให้ทำตาม 1-5 โดย
  • เลือก Web application   
  • กรอกชื่อ Project name
  • กรอกชื่อเว็บไซต์ของท่าน
  • กรอกชื่อเว็บเมื่อเข้าสู่ระบบได้แล้ว มันก็จะทำการ refresh เว็บปลายทาง ในหัวข้อที่ 4 นี้
  • ทำการสร้างกดที่ปุ่ม Create

  1. จากนั้นนำโค้ดที่ได้จากขึั้นตอนที่ผ่านมา ดังแสดงตามรูป ทำการ Copy โค้ดนี้ไปแปะแทนที่โค้ดเก่าที่ ขั้นตอนที่ 1

  1. กลับไปที่ Google Apps script แล้ววางแทนที่โค้ดเก่าตามภาพครับ

⇒  และ copy ลิงค์ที่เมื่อเข้าสู่ระบบแล้วไม่ถูกต้อง จะมีปุ่ม Logout ถ้าคลิกปุ่ม Logout จะวิงไปที่ลิงค์นี้ตามภาพ...


  1. ทำการ Deploy โค้ดที่เราแก้ตามขั้นตอนที่ดำเนินการผ่านมาตามรูปภาพ  แล้วก็อปปี้ลิงค์ข้อที่ 3 ไปใช้ในเว็บเราครับ



  1. โค้ดที่จะใช้วางในเว็บเราคือ ก็อปปี้ไปตามนี้ครับ
เอาโค้ดที่ก็อปจากข้อที่ 7 มาวางแทนสีแดงนะครับ แล้วนำไปใช้ในเว็บเราได้เลย  

<iframe frameborder="0" height="290" id="ifram1" onload="iframeDidLoad();" scrolling="no" src="https://script.google.com/macros/s/AKfycbw1yzZ3m-dqHUEDp01LU_Wwh7OENg9IEMX36-Uj5-KrhT3LDgwS/exec" width="600"></iframe>

ยังไม่เสร็จนะครับ

 ต่อ ด้วยเมื่อนำไปรันหรือทดสอบแล้วคลิกที่ปุ่ม

SigIn มันจะขึ้น Error ดังภาพนี้ครับ




ให้คลิกที่ Request Details แล้วคลิกขวา เลือกทั้งหมด copy code ทั้งหมดไปวางใน notepad หรืออะไรก็ได้ที่สามารถดูโค้ดที่ก็อปปีมาดูได้ครับ
แล้วเลือกก็อปปีดังภาพนี้นะครับ

ก็อปปี้ตามภาพด้านบน นำไปที่ https://console.developers.google.com
แล้วอย่าลืม SAVE

แล้วลอง Refresh หน้าเว็บทดลองดูอีกครั้งครับ หากผ่านจะได้ดังภาพครับ


หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับหลายๆท่านที่กำลังศึกษา หรือจะนำไปใช้งานครับผม






Loading Loading  ทดสอบระบบการตรวจสิทธิ์การเข้าถึง Gmail

มอบหมายหน้าที่ให้ตัวแทนในกลุ่มเพียงคนเดียวส่งงาน
กรุณาเช็คการส่งให้รอบคอบด้วย อย่าให้พลาดเป็นอันขาด
Loading
..กำลังโหลด LOADING ..
คลิกตรวจสอบการส่งงาน